ค้นหาบล็อกนี้

วันเสาร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2553

ช่วยเหลือ 1 คน ให้มีความหวัง





















บ้านเรือปราณรีสอร์ท...อ่านหน่อยเถอะสงสารลุง






165/6 หมู่ 3 ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เผื่อใครสนใจไปเที่ยวได้... คนลุงอายุสัก 50-60 ปี ผิวดำ ใส่กางเกงม่อฮ่อม เสื้อยืด เดินมาหาเรา นามว่า ลุงช้อง ( เสียดายผมไม่ได้ถ่ายรูปแกมา เนื่องจากแกอาย ) ต้อนรับเราด้วยน้ำ เสียงเหน่อแบบชาวเล แบบเป็นกันเองเราจึงได้รู้ภูมิหลังของรีสอร์ทแห่งนี่ ว่าเพิ่งเปิดได้ไม่นานประมาณ 2-3 เดือน ด้วยความไฝ่ฝันของแกว่าอยากมีรีสอร์ทตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว เนื่องจากที่ดินบริเวณนี้เป็นที่ดินกงสีของแม่ ซึ่งได้แบ่งทำการให้ลูก 8 คน ในส่วนเท่ากัน ๆ แกจึงมาเติมฝันของแกที่เป็นจริง โดยการเอาที่ดินไปเข้าธนาคารและนำมาทำรีสอร์ทที่แกชอบ โดยมีพี่สาวของแกซึ่งเปิดรีสอร์ทติดกันช่วยเหลือ ในด้านสถาปนิกผุ้ออกแบบ ในเวลา 1 ปี รีสอร์ทแกจึงเกือบสมบูรณ์ แต่ด้วยความที่แกเป็นชาวเลโดยกำเนิด แกทำความสะอาด รดน้ำสวนเอง และด้วยเหตุนี่ แกจึงไม่มีการตลาดเข้ามาช่วยดูแล ยังผลให้รีสอร์ทแกไม่ค่อยมีกรุ้บทัวร์หรือคนรู้จักเลย ( มารู้ภายหลัง คนออกแบบสวนให้แก รู้สึกสงสาร จึงออกแบบเว็บให้แกซึ่งรายละเอียดก็ยังน้อยอยู่มาก ) http://www.boathousepran.com/














แกมาดูสารทุกข์สุขดิบตลอดเวลา เหมือนเป็นญาติกัน นำหมึกแดดเดียว ที่แกทำไว้จากการออกเรือได้หมึกมาทอดมาให้กินโดยไม่คิดมูลค่า ซึ่งหาได้ยากจากคนทำธุรกิจนี่ ขาดเหลืออะไร แกกุลีกุจอทำให้หมด




พอ ตกหัวค่ำที่ได้มีโอกาสนั่งคุยกับแกอย่างจริงจัง จึงได้รู้ว่าคนพักที่แกมีน้อยมาก อย่างอาทิตย์ที่ผ่านมา รีสอร์ทของแกมี 9 ห้อง ว่างตลอดสัปดาห์ไม่มีคนมาพักเลย หรือแม้กระทั่งเสาร์ อาทิตย์ก็ตาม ทั้งๆ ที่เมื่อเทียบกับรีสอร์ทข้างเคียงผมว่าห้องพักแกไม่เป็นรอง เมื่อเทียบกับระดับราคา เรตห้องพักแล้ว ยิ่งไปกันใหญ่ ซึ่งถ้าถามผมขอบอกว่าถ ูกมากเมื่อเทียบกับสิ่ง! ที่ได้รับจากชาวประมงใจดีคนนึง ซึ่งหาไม่ได้ในชีวิตเมืองหลวงแต!



กังวลใจนี่ คือ รายได้แกไม่พอในการผ่อนธนาคาร เนื่องจากลูกค้ามาพักน้อย วันธรรมดา แทบไม่มี ศุกร์ เสาร์ก็น้อย เพราะแกไม่มีการตลาดเลย แกใช้ความเป็นลูกทุ่งของแก คือการเฝ้าคอย ลูกค้าขับรถผ่านหน้ารีสอร์ทแก และแวะเวียนมาถาม แกถึงจะได้ลูกค้า ผมกับแฟนเห็นแล้วอดเห็็็นใจไม่ได้ จึงรับปากแกว่ากลับมา จะมาโพสต์ในเน็ท ในทุกเว็บที่เรารู้จักให้ลุงแกสามารถที่จะทำความฝันแกต่อไปได้ ภายในห้องพัก ตกแต่งสวยงามมาก วัสดุอุปกรณ์ แต่ละอย่างแกใช้ของอย่างดี ยังคิดอยู่ว่าแกเอา …. กำไรมาจากไหน......

วันศุกร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2553

โง่ไปได้...ไม่อยากจะเชื่อตัวเอง ++

สวัสดีค่ะ

มีเรื่องเล่า ว่าเมื่อวัน พฤหัส อาทิตย์แรกของเดือนมกราคม 2010 เราจะไปซื้อหนังสือที่ร้านหนังแพร่พิทยา ที่ Central พลาดพร้าว เป็นหนังสือเกี่ยวกับ พวก 3D แต่ไม่ได้ซื้อ เดินไปเรื่อย ๆ เจอหนังสือเกี่ยวกับ หาเงินทางเน็ต ด้วยความที่เราเล่นเน็ตอยู่ทุกวัน ก็เลยสนใจ ดีกว่าเล่นแล้วไม่มีประโยชน์ ยืนอ่านหน้าชั้นวางหนังสืออยู่นาน ก็ถึงเวลาตัดสินใจซื้อ แถวยังเลือกอยู่อีกตั้งนาน กว่าจะได้เล่นที่ถูกใจ ....มาถึงตอนที่เราโง่แล้วนะ......เราหยิบเล่มที่ทางร้านเค้าโชร์ไว้ให้ลูกค้าอ่าน ซึ่งภายนอกดูดีมาก ไม่มีรอย แล้วเราก็หยิบหนังสือไปจ่ายตังที่ เค้าเตอร์ ด้วยความมั่นใจ ว่ากลับบ้านจะอ่านเล่นนี้เป็นอันดับแรก (เหมือนจะเห็นแก่เงิน อิอิ) พอถึงบ้านปั๊ป วางกระเป๋า ปุ๋ม หมดทุกสิ่งอย่าง นั้งลงบนเตียง กะจะนอนอ่าน...จากนั้นเราก็หยิบถุงหนังสือขึ้นมา.....ดึงหนังสือออกจากถุงเปิด.....เปิดอ่าน ปุ๊ป..........แบ๊ววววววววววววววว เวรกรรม ใส้ในหนังจะหลุดออกมาแล๊วววว แบบว่ามันหลุดออกมาเป็นแผ่น ๆ ๆๆๆๆ ด้วยความที่เจออย่างนั้นแล้ว .....เราเลยไม่มีอารมณ์จะอ่านมัน....เราก็เลยวางมันไว้ ไม่อ่านซักหน้า ....เซ็งจิต ๆๆ หนังสือ สองร้ายกว่าบาท ของช้านนนนนนน


กลับมาคิด......เราทำไมไม่เปิดเช็ค บ้างนะ ทั้งที่เมื่อก่อนก็ทำอยู่ทุกครั้งเวลาไปซื้อหนังสืออ่าน คิดแล้ว เซ็งงง อีก เซ็ง ๆๆๆๆ สุด ๆๆๆ


อยากออกเพื่อน ๆ ว่า อย่าโง่เหมือนเรานะ เราโง่คนเดียวพอ ... ฮ้า ๆๆๆๆๆๆ


THK U for read me...